สำหรับพระภิกษุสามเณรผู้เรียนจบ ป.ธ.9 แล้ว สังคมไทยยกย่องว่ายอดเยี่ยมสูงสุด เพราะถือว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดในระบบการศึกษาของสงฆ์ไทย แม้ว่าสังคมจะเข้าใจดีว่า การเรียนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค อาจจะไม่ได้เข้าใจพระไตรปิฏก อรรถกถา ฎีกา อย่างแจ่มแจ้งหมดจดทั้งหมดแต่ก็ยกย่องและชื่นชมอนุโมทนาในความวิริยะอุตสาหะของท่าน
ผู้เรียนจบบาลี ป.ธ.9 ใหม่ ๆ บางท่านก็เวิ้งว้างเหมือนกัน จบแล้วก็งง ๆ ตัวเองก็มี ไม่รู้จะทำอะไร บางท่านก็ได้โอกาสไปศึกษาเล่าเรียนต่อต่างประเทศ บ้างก็เข้าเรียนต่อตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แต่ส่วนมาก ไม่ใช่การเรียนต่อสาขาภาษาบาลี แต่ไปเรียนสาขาวิชาการอื่น ๆ มากกว่า (ซึ่งก็น่าสนใจเช่นกันว่า ทำไมจึงไม่ศึกษาต่อสาขาภาษาบาลี)
พระเปรียญ 9 หลายรูป รู้สึกกดดัน เพราะสังคมยกย่องสูงมาก จะทำอะไร จะไปไหน อย่างไรดูยุ่งยากมาก ตัดสินใจลำบาก บางท่านโลเลลังเล จะทำอะไรดี บางท่านเคว้งคว้างสุด ๆ ก็เลยลาสิกขาออกมาเลย พอลาสิกขาออกมาแล้วสถานภาพเปลี่ยนไป ถ้าไม่วิริยะอุตสาหะไปเรียนวิชาชีพอื่น ๆ มักจะยากลำบาก เพราะความรู้บาลี ป.ธ.9 พอลาสิกขาออกมาแล้ว มีเวทีให้ใช้ประโยชน์น้อยมากในประเทศนี้ งานของอดีตเปรียญ 9 จึงไม่พ้นงานหนังสือ ตรวจต้นฉบับ บรรณาธิการ ตามสำนักพิมพ์โรงพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ หากสังคมมีระบบที่รองรับได้ดีกว่านี้ ท่านที่มีความรู้ระดับนี้ จะต้องมีตำแหน่งงานอีกมากมายรองรับ
บางคนก็มาถาม ทำไมคนบวชเรียนจนจบ ป.ธ.9 แล้ว ยังลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาสอีก ก็ได้บอกไปว่า เรื่องการบวชแล้วลาสิกขาเป็นธรรมชาติของสังคมไทย เป็นเรื่องปกติในประเทศนี้ บางคนบวช ๆ สึก ๆ 5-6 รอบก็มี (เชื่อหรือไม่ สมัยพุทธกาล มีบางท่านบวช ๆ สึก ๆ 7 รอบก็ยังมี) บางท่านบวช 30 ปี 40 ปี ก็ลาสิกขา บางท่านลาสิกขาออกมาก็ไปเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศก็มี จึงไม่ต้องแปลกใจอะไร
ความคาดหวังของสังคมต่อพระภิกษุสามเณรเปรียญ 9 ?
ความคาดหวังของสังคมต่อพระเปรียญ 9 นั้น มีมากมายหลายเรื่อง แต่มีสิ่งหนึ่งซึ่งพระเปรียญ 9 หลายรูปยุคปัจจุบันไม่ค่อยรู้ พระเถระท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า โบราณประเพณีใครสอบประโยคบาลีได้ชั้นไหน ต้องสอนลูกศิษย์ให้สามารถสอบผ่านบาลีชั้นนั้นให้ได้ด้วย ดังนั้นใครสอบ ป.ธ.9 ได้ ก็ต้องไปสอนให้ลูกศิษย์สอบ ป.ธ.9 ให้ได้ จึงจะถือว่าปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวังของสังคม นี่เป็นอุบายอันลึกซึ้งในการสร้างศาสนทายาทของประเทศนี้ ท่านที่สอบได้ ป.ธ.9 ต้องไปสอนบาลี ต้องไปถ่ายทอดความรู้ภาษาบาลี ต้องไปสร้างลูกศิษย์ให้สอบ ป.ธ.9 ให้ได้อย่างน้อย 9 รูป จึงจะสมภูมิ
พระภิกษุ ป.ธ.9 ทั้งหลายในยุคปัจจุบันจะมีความคิดเห็นเป็นประการใดหรือจะพิจารณาไปอย่างไรก็สุดแท้แต่ แต่ความคาดหวังของสังคมดังที่สะท้อนออกมาจากคำพูดของพระเถระผู้เฒ่า (รูปหนึ่ง) นี้ ย่อมน่ารับฟังและควรแก่การตรึกตรองยิ่ง ข้าวน้ำจตุปัจจัยที่ญาติโยมทั้งประเทศอุ้มชูบูชาท่านตั้งแต่แรกบวชจนจบ ป.ธ.9 นั้นมากมาย อนาคตของพระศาสนาก็อยู่ในมือของท่านด้วยเช่นกัน หากจบเปรียญ 9 แล้ว ยินดีพอใจในการอยู่เฉยๆ ไปวัน ๆ วิปัสสนาธุระก็ไม่เอา คันถธุระก็ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เอาภาระธุระเลยในการสอนภาษาบาลีไม่สนใจสั่งสอนศิษย์เลย ต้องบอกว่าน่าผิดหวังและน่าเสียดายมากทีเดียว ดังนั้นอย่าโลเลลังเลใจ ขณะครองเพศบรรพชิตอยู่ ขอท่านจงเร่งรุดตั้งใจถ่ายทอดความรู้ภาษาบาลี สอนสั่งลูกศิษย์ให้มีความสามารถสอบได้เปรียญธรรมชั้นสูงสุดเหมือนเช่นท่าน หากไม่มีผู้สนใจเรียน ท่านก็ต้องไปหาคนมาเรียน หากเขาไม่สนใจเรียน ท่านก็ต้องหาวิธีสร้างความต้องการสร้างความสนใจให้เขาอยากจะเรียนให้ได้ บทเพลงเปิดบ่อย ๆ ได้ฟังบ่อย ๆ ก็ติดหูคนฟังได้ ฉันใด การกระตุ้นเรื่องความสำคัญของการเรียนบาลีบ่อย ๆ ย่อมจะทำให้คนเกิดความสนใจอยากเรียนบาลีได้เช่นกัน ฉันนั้น
เขียนเมื่อ
1 กุมภาพันธ์ 2556 | อ่าน
11054
เขียนโดย
นายธฤญเดชา ลิภา